วิธีรักษารอยฟกช้ำ เมื่อเราต้องเจอกับปัญหารอยฟกช้ำ ที่ทำให้รู้สึกเจ็บแล้วยังใช้เวลานานกว่าจะรักษาหายได้ ยิ่งมองยิ่งขัดใจ แน่นอนว่าต้องหาวิธีเข้ามาช่วยรอยฟกช้ำนี้หายได้เร็วสุด ใครเจอปัญหานี้อยู่ต้องมาดู หรือแนะนำให้เก็บวิธีรักษารอยฟกช้ำเหล่านี้ไว้ เพราะเมื่อเผลอเดินชนหรือกระแทกกับอะไรจนเกิดความช้ำ เราจะต้องปฐมพยาบาลด้วยการประคบกันก่อนแต่ก่อนอื่น เรามาดูสาเหตุของการเกิดรอยฟกช้ำกันก่อนเถอะ ซึ่งแรงกระแทกรุนแรงนั้นมาทำให้ผิวเรามีรอยช้ำอยู่ เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่อยู่ฝนผิวหนังเกิดการแตก จนมีเลือดออกในผิวหนัง จนเห็นเป็นรอยฟกช้ำที่มีสีแดง จนไปถึงม่วง แล้วท้ายที่สุดรอยช้ำจะมีสีเหลืองหรืออมเขียวตามมาด้วย
เคล็ดลับ วิธีรักษารอยฟกช้ำ ปฐมพยาบาลด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ
- การประคบ
โดยแบ่งเป็นการประคบเย็นและประคบร้อน ในช่วงภายใน 48 โมงหลังเกิดรอยฟกช้ำเหล่านี้ ให้ทำการประคบเย็นก่อน ใช้น้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบไว้ วันละ 3-4 วัน แล้วก็ครั้งละ 15-20 นาที จะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ช่วยให้หลอดเลือดที่ฉีกขาดน้อยลง จะช่วยให้เกิดการรอยฟกช้ำได้น้อย รวมถึงลดอาการบวมได้ด้วย ส่วนต่อมาคือการประคบร้อน หลังจากผ่าน 48 ชั่วโมงไปแล้ว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือเป็นถุงกระเป๋าน้ำร้อน มาประคบบริเวณที่ช้ำ วันละ 3-4 วัน ครั้งละ 15-20 นาที เช่นเดียวกัน ช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนบริเวณนั้นเป็นไปด้วยดี และเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง
- การทายาแก้ฟกช้ำ
เริ่มต้นแนะนำเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นอย่างว่านหางจระเข้ สามารถใช้เพื่อบรรเทาบริเวณฟกช้ำ บรรเทาอาการอักเสบ และปลอบประโลมผิวได้ดี หรือใช้สับปะรดมาพอกได้ ในสับปะรดจะมีเอนไซม์ที่ช่วยลดรอยบวมช้ำได้หรือใช้เป็นยาทาแก้ฟกช้ำก็ได้ เช่น Hirudoid forte cream มีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการฟกช้ำ บริเวณผิวหนังห้อเลือดได้ พร้อมบรรเทาอาการอักเสบของหลอดเลือดดำได้
- อาหารฟื้นฟู
นอกจากการรักษาภายนอกแล้ว อาหารก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้รอยฟกช้ำหายได้ แนะนำเป็นผลไม้รสเปรี้ยวเช่น ส้ม มะนาว สับปะรด เพราะในผลไม้กลุ่มนี้วิตามินซีสูงและมีฟลาโวนอยด์ ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดแข็งตัว หรือเลือกอาหารที่มีวิตามินเคอยู่ เช่น ผักคะน้า ผักกาดหอม บร็อคโคลี เพราะวิตามินเคจะช่วยเลือดแข็งตัวเร็ว จึงช่วยสมานและฟื้นฟูให้รอยฟกช้ำหายได้เร็วขึ้น
ติดตามเว็บไซต์การดูแลสุขภาพ
ข่าวสารสุขภาพประโยชน์ใบบัวบก ไม่ได้แก้อาการช้ำในอย่างเดียว แต่มีสรรพคุณอีกมากมาย
