การรักษาอาการซึมเศร้า

การรักษาอาการซึมเศร้า หรือโรคซึมเศร้าไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นในหมู่วัยรุ่นหรือคนทำงายเท่านั้น แม้จะมีผลการวิจัยแล้วว่าโรคซึมเศร้าเป็นมากในหมู่คนอายุ 18 – 44 ปีก็ตามแต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่เด็กที่อายุต่ำกว่านั้นจะสามารถเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน เกิดความรุนแรงในครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลา เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกบูลลี่จากเพื่อนหรือจากครู ทั้งหมดนี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทางจิตในเด็กได้อย่างมากเลยทีเดียว กฎหมายที่หยุดยั้งการรักษาอาการซึมเศร้าของเด็กต่ำกว่า 18

 การรักษาอาการซึมเศร้า

การรักษาอาการซึมเศร้า ที่ไม่อาจจะเกิดแค่ในครอบครัวแต่สามารถเกิดขึ้นได้ในโรงเรียนด้วย

ครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงอาการหรือปัญหาที่ตามมาของโรคซึมเศร้ามากนัก เพราะหลายคนทราบกันดีว่าโรคนี้เป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วยมากและอาจส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างได้หากผู้ป่วยเกิดการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือทำร้ายจิตใจคนที่อยู่รอบข้างไปด้วยโดยที่ไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ดีครั้งนี้เราจะมาพูดถึงกฎหมายที่หยุดยั้งการรักษาอาการซึมเศร้าของเด็กต่ำกว่า 18 เป็นเรื่องที่น่าตกใจเมื่อทราบว่าบ้านเรามีกฎหมายที่เด็กต่ำกว่า 18 ไม่สามารถไปรับการรักษาอาการทางจิตด้วยตัวเองได้ หากมองในมุมหนึ่งอาจพบว่าเด็กเล็กคงไม่สามารถไปหาหมอด้วยตัวเอง หรือไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องการรักษาอาการเหล่านี้

กฎหมายที่หยุดยั้ง  การรักษาอาการซึมเศร้า

หากเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อใจในวัยนี้เด็กอาจไม่เป็นอะไรมากด้วยความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าเดี๋ยวพอโตเด็กมันก็ลืม แท้จริงแล้วบาดแผลทางใจของเด็กลึกกว่าที่หลายคนคิดเอาไว้มาก ส่วนใหญ่จะเป็นบาดแผลที่แม้แต่ตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นมาจากไหนเมื่อไหร่ เพราะตัวเองยังเด็กมาก นอกจากนี้เด็กที่พอรู้เรื่องแล้วและพบว่าตัวเองมีปัญหาทางด้านจิตใจบางคนก็ไม่ต้องการให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบเนื่องจากปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นมาจากคนในบ้านเองกฎหมายที่ต้องให้ผู้ปกครองไปเพื่อทราบการรักษาด้วยจึงเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อเด็กที่มีปัญหาจากครอบครัว

การรักษาอาการซึมเศร้า เด็กต่ำกว่า 18

กฎหมายที่หยุดยั้งการรักษาอาการซึมเศร้าของเด็กต่ำกว่า 18 นี้คือกฎหมายตามพรบ.สุขภาพจิต มาตราที่ 21 วรรคที่ 3 ที่กล่าวไว้ว่าเด็กต่ำกว่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองเพื่อรับการรักษา ดังนั้นเด็กบางคนที่เป็นโรคซึมเศร้าที่ไม่ได้เกิดปัญหาจากครอบครัวแต่เป็นปัญหาจากที่โรงเรียนหรือจากสังคมรอบข้างซึ่งไม่อยากให้ผู้ปกครองรู้จึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้คนเดียวเพราะไม่สามารถไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ที่โรงเรียนในประเทศไทยยังไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของเด็กนักเรียนมากพอจึงยังไม่มีจิตแพทย์ให้คำปรึกษา เด็กเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงที่จะโตมาเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย

ฝากกดติตดามการดูแลสุขภาพ
ข่าวสุขภาพที่น่าสนใจการป้องกันการฆ่าตัวตาย จากภาวะซึมเศร้าฆ่าตัวตายและสิ้นหวัง

Related Posts